Page 213 - :: สมุดภาพ ๑๓๐ ปี กระทรวงมหาดไทย ๒๔๓๕ - ๒๕๖๕ เล่ม ๒ ::
P. 213

๕








                 5             สิ่งของท่ระลึกท่เกี่ยวเน่องกับกระทรวงมหาดไทย




                                                                  ื
                                                       ี
                                            ี







                                   �
                              “ถ้าทาตึกสองข้างนี แม้นอย่างตึกแถวในตลาดสาเพ็ง ก็จะงดงามเป็นสง่าแก่บ้านเมือง
                                               ้
                                                                        �
                              และจะได้ค่าเช่าดีมากด้วย แต่ติดอยู่ด้วยเร่องเงินท่จะลงทุนในเร่องตึกแถวให้เช่านี  ้
                                                                             ี
                                                                                         ื
                                                                     ื
                                                ั
                                                                                               ี
                              ได้เคยคิดเห็นมาแต่คร้งไปเมืองภูเก็จ เห็นว่าถ้าเป็นของแผ่นดินอยู่ตราบใดยากท่จะจัดให้ดีได้
                              ท้งในทางท่จะหาประโยชน์แลจะรักษาให้งดงาม เพราะการแผ่นดินไม่เหมือนกับการ
                                ั
                                        ี
                                                                                        ี
                              แสวงหาแลรักษาผลประโยชน์ของเอกชน ยกตัวอย่างเหมือนการท่มีตึกให้เขาเช่าเช่นน    ้ ี
                              ถ้าเป็นของเอกชนย่อมคอยระวังซ่อมแซมรักษา เพื่อมิให้ทุนทรัพย์แลผลประโยชน์
                                            ื
                                                         ี
                              ค่าเช่าของเขาเส่อมทรามลง แต่ท่เป็นตึกของแผ่นดินไม่มีใครจะต้องเจ็บร้อนขนขวายเช่นนั้น
                                                                                                    �
                              ถ้าหากว่าช�ารุดซุดโซมข้าหลวงผู้ว่าราชการเมืองรู้เห็นเข้าเม่อใด ทางท่จะทาก็คือ
                                                                                      ื
                                                                                                ี
                              มีใบบอกเข้าไปวางเวรยังกระทรวงมหาดไทย ๆ บอกไปยังกระทรวงพระคลังตามทาง
                                                                                �
                                                                                       ั
                              ราชการ บางทีเงินไม่มีในงบประมาณก็ต้องงด แม้จะได้ทาในปีน้น กระบวนจะโต้ตอบ
                              ส่งเสียไปมาก็ช้านาน จนถึงท่ช�ารุดน้นมากมาย น่ว่าท่ไม่เหลวไหล ถ้าความเหลวไหล
                                                        ี
                                                              ั
                                                                          ี
                                                                              ี
                              แฉะช้ามีอยู่ในนั้นด้วยแล้ว บางทีก็เลยโซมเปล่า
                              ไม่ต้องป่วยกล่าวถึงหัวเมืองให้ไกล การเช่นน้จะหาอย่างดูในกรุงเทพฯ บ้างก็จะได้
                                                                        ี
                                                                            ี
                                                                     ี
                              ถ้าเป็นของมีเจ้าของ ๆ ย่อมขนขวายข้ามการท่แฉะช้าท่มีในทางราชการได้หมด ด้วยเหตุนี  ้
                                                                ้
                                               �
                              จึงเห็นว่าตึกหลวงสาหรับแผ่นดินเหล่าน ถ้าให้มีเอกชนเป็นเจ้าของเสียจะดีกว่า แต่จะขาย
                                                                ี
                              ทอดตลาดก็น่านึกเสียดายค่าเช่า เพราะเหตุฉะนี้จึงคิดเห็นว่า ถ้ายกไปเป็นของพระคลัง
                              ข้างที่เสียได้จะเป็นดีที่สุด เพราะลงทุนท�าคงจะได้ดอกเบี้ยกลับไม่ต�่ากว่าชั่งละ ๓ ต�าลึง
                              บ้านเมืองก็จะงามขึ้น ราษฎรก็จะค้าขายเป็นศุขส�าราญขึ้น”
                              ลำยพระหัตถ์สมเด็จฯ กรมพระยำด�ำรงรำชำนุภำพในครำว
                                                        ี
                              เสดจตรวจรำชกำรเมองเพชรบุร เมองสมทรสำคร ร.ศ. ๑๑๗
                                               ื
                                                           ื
                                 ็
                                                               ุ
                              (พ.ศ. ๒๔๔๑)
                              ที่มา : เอกสำรเสด็จตรวจรำชกำรเสนำบดีกระทรวงมหำดไทย ร.ศ.
                              ๑๑๑ ถึง ๑๑๗ (พ.ศ. ๒๔๓๕ - ๒๔๔๑) กรมศิลปำกรจัดพิมพ์ พ.ศ.
                              ๒๕๖๒ หน้ำ ๑๔๓

                                                                          ฐานประติมากรรมรูปสิงห์แบกแท่น ศิลปะลพบุรี
                                                                    (ภาพจากส�านักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร)

                                                                                                   211 I 211
   208   209   210   211   212   213   214   215   216   217   218